บทความสุขภาพ / 4 ท่า X-ray กระดูกสันหลังส่วนเอว ที่แพทย์ใช้ตรวจเพื่อการวินิจฉัยที่แม่นยำ
4 ท่า X-ray กระดูกสันหลังส่วนเอว ที่แพทย์ใช้ตรวจเพื่อการวินิจฉัยที่แม่นยำ
การ X-ray กระดูกสันหลังส่วนเอว (Lumbar Spine) เป็นขั้นตอนสำคัญในการวินิจฉัยปัญหาอาการปวดหลังที่พบบ่อย โดยแพทย์มักจะใช้ 4 ท่าหลักเพื่อประเมินความผิดปกติได้อย่างครอบคลุมและแม่นยำยิ่งขึ้น


ท่าตรง (Anteroposterior View - AP View)
- ลักษณะ : ผู้ป่วยจะอยู่ในท่ายืนหรือนอนหงาย แล้วเจ้าหน้าที่รังสีวิทยาจะถ่ายภาพจากด้านหน้า
- ความสำคัญ : เพื่อประเมินภาพรวมของกระดูกสันหลัง แพทย์จะใช้ท่านี้เพื่อดูแนวกระดูกว่ามีความตรงหรือไม่ และตรวจหาภาวะ กระดูกสันหลังคด หรือ กระดูกสันหลังเคลื่อน รวมถึงดูความกว้างของช่องว่างระหว่างข้อกระดูก

ท่าด้านข้าง (Lateral View)
- ลักษณะ: ผู้ป่วยจะยืนหรือนอนตะแคงเพื่อถ่ายภาพ
- ความสำคัญ : ท่านี้ช่วยให้แพทย์เห็นความโค้งตามธรรมชาติของกระดูกสันหลังในแนวหน้า-หลังได้อย่างชัดเจน และยังใช้เพื่อประเมินความสูงของหมอนรองกระดูก รวมถึงดูว่ามีภาวะ กระดูกสันหลังเคลื่อน ไปข้างหน้าหรือข้างหลังหรือไม่

ท่าก้ม-เงย (Flexion-Extension View)
- ลักษณะ: ผู้ป่วยจะยืนในท่าด้านข้าง แล้วถ่ายภาพ 2 ครั้ง โดยครั้งแรกเป็นท่าก้มตัวสุด และครั้งที่สองเป็นท่าเงยตัวสุด
- ความสำคัญ : เป็นท่าที่สำคัญมาก เพราะจะช่วยให้แพทย์เห็น “ความไม่มั่นคง” ของกระดูกสันหลังได้อย่างชัดเจน หากมีภาวะกระดูกสันหลังเคลื่อน การถ่ายภาพในท่านี้จะช่วยยืนยันการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่แม่นยำยิ่งขึ้น เนื่องจากจะเผยให้เห็นว่าข้อกระดูกมีความผิดปกติในขณะที่มีการเคลื่อนไหวหรือไม่
ดังนั้นการตรวจด้วย X-ray ทั้ง 4 ท่านี้จะช่วยให้แพทย์สามารถประเมินโครงสร้างของกระดูกสันหลังได้อย่างละเอียด และเป็นข้อมูลสำคัญในการพิจารณาแนวทางการรักษาที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย นอกจากนี้ การตรวจด้วย MRI (Magnetic Resonance Imaging) หรือ การสร้างภาพอวัยวะภายในร่างกายด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและคลื่นวิทยุ โดยไม่ต้องใช้รังสีเอกซเรย์ที่เป็นอันตราย ก็มีความสำคัญอย่างยิ่งในการวินิจฉัยโรคกระดูกสันหลัง

![]()
หลักการทำงาน
เครื่อง MRI จะส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและคลื่นวิทยุเข้าไปในร่างกาย คลื่นเหล่านี้จะไปกระตุ้นโปรตอน (อนุภาคเล็กๆ ในอะตอม) ในร่างกายให้ปล่อยสัญญาณออกมา จากนั้นคอมพิวเตอร์จะแปลงสัญญาณที่ได้รับเป็นภาพ 3 มิติที่มีความละเอียดสูง ทำให้แพทย์สามารถเห็นรายละเอียดของเนื้อเยื่ออ่อนต่างๆ ได้อย่างชัดเจน

X-ray มาแล้วทำไมต้องตรวจ MRI อีก?
การตรวจด้วย X-ray ทั้ง 4 ท่าจะช่วยให้แพทย์ประเมินภาพรวมของโครงสร้างกระดูกได้อย่างละเอียด แต่ X-ray ไม่สามารถแสดงภาพของเนื้อเยื่ออ่อน (Soft Tissue) เช่น หมอนรองกระดูก เส้นประสาท และไขสันหลัง ได้อย่างชัดเจน
ดังนั้น การตรวจด้วย MRI จึงเข้ามาเติมเต็มในจุดนี้ โดยจะะให้ภาพที่มีความละเอียดสูงและสามารถเห็นรายละเอียดของเนื้อเยื่ออ่อนและลักษณะของรอยโรคได้อย่างชัดเจน ทำให้แพทย์สามารถ
- ระบุตำแหน่งและขนาดของรอยโรคได้อย่างแม่นยำ เช่น หมอนรองกระดูกปลิ้น หรือ หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
- ประเมินความเสียหายของเส้นประสาท เห็นถึงระดับการกดทับของเส้นประสาทและไขสันหลัง
- วางแผนการรักษาได้อย่างถูกต้อง ช่วยให้แพทย์ตัดสินใจได้ว่าควรใช้วิธีการรักษาแบบไม่ผ่าตัด เช่น กายภาพบำบัด ทานยา หรือจำเป็นต้องผ่าตัด

การตรวจทั้ง X-ray และ MRI ร่วมกันจึงเป็นการผสมผสานที่สมบูรณ์แบบ เพื่อให้แพทย์ได้ข้อมูลที่ครอบคลุม ครบถ้วนและแม่นยำที่สุด สำหรับการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย
ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังเพื่อประเมินอาการและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
ติดต่อสอบถามหรือทำนัดพบแพทย์ โทร
062 365 1788KLD Clinic #ทางออกสำหรับทุกความเจ็บปวด