ติดต่อสอบถามหรือทำนัดพบแพทย์
062 365 1788
KLD Clinic Logo
บทความสุขภาพ / 4 ท่า X-ray กระดูกสันหลังส่วนเอว ที่แพทย์ใช้ตรวจเพื่อการวินิจฉัยที่แม่นยำ
4 ท่า X-ray กระดูกสันหลังส่วนเอว ที่แพทย์ใช้ตรวจเพื่อการวินิจฉัยที่แม่นยำ
การ X-ray กระดูกสันหลังส่วนเอว (Lumbar Spine) เป็นขั้นตอนสำคัญในการวินิจฉัยปัญหาอาการปวดหลังที่พบบ่อย โดยแพทย์มักจะใช้ 4 ท่าหลักเพื่อประเมินความผิดปกติได้อย่างครอบคลุมและแม่นยำยิ่งขึ้น

ท่าตรง (Anteroposterior View - AP View)

 

  • ลักษณะ : ผู้ป่วยจะอยู่ในท่ายืนหรือนอนหงาย แล้วเจ้าหน้าที่รังสีวิทยาจะถ่ายภาพจากด้านหน้า
  • ความสำคัญ : เพื่อประเมินภาพรวมของกระดูกสันหลัง แพทย์จะใช้ท่านี้เพื่อดูแนวกระดูกว่ามีความตรงหรือไม่ และตรวจหาภาวะ กระดูกสันหลังคด หรือ กระดูกสันหลังเคลื่อ รวมถึงดูความกว้างของช่องว่างระหว่างข้อกระดูก

 

 

ท่าด้านข้าง (Lateral View)

 

  • ลักษณะ: ผู้ป่วยจะยืนหรือนอนตะแคงเพื่อถ่ายภาพ
  • ความสำคัญ : ท่านี้ช่วยให้แพทย์เห็นความโค้งตามธรรมชาติของกระดูกสันหลังในแนวหน้า-หลังได้อย่างชัดเจน และยังใช้เพื่อประเมินความสูงของหมอนรองกระดูก รวมถึงดูว่ามีภาวะ กระดูกสันหลังเคลื่อน ไปข้างหน้าหรือข้างหลังหรือไม่

 

 

 

ท่าก้ม-เงย (Flexion-Extension View)

 

  • ลักษณะ: ผู้ป่วยจะยืนในท่าด้านข้าง แล้วถ่ายภาพ 2 ครั้ง โดยครั้งแรกเป็นท่าก้มตัวสุด และครั้งที่สองเป็นท่าเงยตัวสุด
  • ความสำคัญ : เป็นท่าที่สำคัญมาก เพราะจะช่วยให้แพทย์เห็น “ความไม่มั่นคง” ของกระดูกสันหลังได้อย่างชัดเจน หากมีภาวะกระดูกสันหลังเคลื่อน การถ่ายภาพในท่านี้จะช่วยยืนยันการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่แม่นยำยิ่งขึ้น เนื่องจากจะเผยให้เห็นว่าข้อกระดูกมีความผิดปกติในขณะที่มีการเคลื่อนไหวหรือไม่

 

ดังนั้นการตรวจด้วย X-ray ทั้ง 4 ท่านี้จะช่วยให้แพทย์สามารถประเมินโครงสร้างของกระดูกสันหลังได้อย่างละเอียด และเป็นข้อมูลสำคัญในการพิจารณาแนวทางการรักษาที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย นอกจากนี้ การตรวจด้วย MRI (Magnetic Resonance Imaging) หรือ การสร้างภาพอวัยวะภายในร่างกายด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและคลื่นวิทยุ โดยไม่ต้องใช้รังสีเอกซเรย์ที่เป็นอันตราย ก็มีความสำคัญอย่างยิ่งในการวินิจฉัยโรคกระดูกสันหลัง

 

 

หลักการทำงาน

 

เครื่อง MRI จะส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและคลื่นวิทยุเข้าไปในร่างกาย คลื่นเหล่านี้จะไปกระตุ้นโปรตอน (อนุภาคเล็กๆ ในอะตอม) ในร่างกายให้ปล่อยสัญญาณออกมา จากนั้นคอมพิวเตอร์จะแปลงสัญญาณที่ได้รับเป็นภาพ 3 มิติที่มีความละเอียดสูง ทำให้แพทย์สามารถเห็นรายละเอียดของเนื้อเยื่ออ่อนต่างๆ ได้อย่างชัดเจน

 

 

X-ray มาแล้วทำไมต้องตรวจ MRI อีก?

 

การตรวจด้วย X-ray ทั้ง 4 ท่าจะช่วยให้แพทย์ประเมินภาพรวมของโครงสร้างกระดูกได้อย่างละเอียด แต่ X-ray ไม่สามารถแสดงภาพของเนื้อเยื่ออ่อน (Soft Tissue) เช่น หมอนรองกระดูก เส้นประสาท และไขสันหลัง ได้อย่างชัดเจน

ดังนั้น การตรวจด้วย MRI จึงเข้ามาเติมเต็มในจุดนี้ โดยจะะให้ภาพที่มีความละเอียดสูงและสามารถเห็นรายละเอียดของเนื้อเยื่ออ่อนและลักษณะของรอยโรคได้อย่างชัดเจน ทำให้แพทย์สามารถ

 

  • ระบุตำแหน่งและขนาดของรอยโรคได้อย่างแม่นยำ เช่น หมอนรองกระดูกปลิ้น หรือ หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
  • ประเมินความเสียหายของเส้นประสาท  เห็นถึงระดับการกดทับของเส้นประสาทและไขสันหลัง
  • วางแผนการรักษาได้อย่างถูกต้อง ช่วยให้แพทย์ตัดสินใจได้ว่าควรใช้วิธีการรักษาแบบไม่ผ่าตัด เช่น กายภาพบำบัด ทานยา หรือจำเป็นต้องผ่าตัด

 

 

การตรวจทั้ง X-ray และ MRI ร่วมกันจึงเป็นการผสมผสานที่สมบูรณ์แบบ เพื่อให้แพทย์ได้ข้อมูลที่ครอบคลุม ครบถ้วนและแม่นยำที่สุด สำหรับการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย


 

ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังเพื่อประเมินอาการและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
ติดต่อสอบถามหรือทำนัดพบแพทย์ โทร 062 365 1788
KLD Clinic #ทางออกสำหรับทุกความเจ็บปวด

ศูนย์ผ่าตัดส่องกล้อง​ KLD -​ ข้อหลังดี

#ทางออกสำหรับทุกความเจ็บปวด

บริการของเรา

กระดูกและข้อ
คอ
กระดูกสันหลัง
สะโพกและข้อเข่า
กายภาพบำบัดเฉพาะทาง

เกี่ยวกับเรา

ข่าวสารและกิจกรรม
บทความสุขภาพ
ความประทับใจ
Copyright© 2025 KLD CLINIC | ALL RIGHTS RESERVED
ข้อกำหนดในการใช้บริการ | นโยบายความเป็นส่วนตัว